อาร์เซนอล 10 คนบุกเชือดชนะ วูล์ฟส์ 0-1 โดยได้ประตูชัยจาก กาเบรียล ตั้งแต่นาทีที่ 26 โดยครึ่งหลัง มาร์ติ เนลลี มาโดนใบเหลืองสองใบต่อเนื่องกันเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป แม้กระนั้นในที่สุดเจ้าบ้านก็ไล่ไม่ทัน จบเกม ปืนใหญ่ บุกมาคว้า 3 คะแนนกลับบ้านไปได้อย่างเฉียดฉิว
20 นาทีผ่านไปเกมยังค่อนข้างจะสูสี บอลส่วนใหญ่อยู่บริเวณกลางสนามทำให้หาโอกาสเข้าทำที่มีลุ้นเป็นประตูกันมิได้นาทีที่ 22 อาร์เซนอล มีลุ้นก่อนจากจังหวะยิงโล่งๆบริเวณกรอบจุดโทษของ มาร์ติ เนลลี แม้กระนั้นยังไปติดบล็อคปราการหลังเจ้าถิ่นนาทีที่ 25 ปืนใหญ่ ออกนำก่อน 0-1 จากจังหวะเตะมุม เบน ไวท์ โขกชงที่เสาแรกบอลเลยมาถึง กาเบรียล ชาร์จจ่อๆเข้าไปต่อจากนั้น วูล์ฟส์ พยายามรีบเกมบุกหวังเอาประตูคืน แล้วก็ได้โอกาสลุ้นจากลูกโหม่งของ ฆิเมเนซ ในนาทีที่ 37 แม้กระนั้นยังไปตรงตัว แรมส์เดลนาทีที่ 42 เซเมโด้ มีลุ้นยิงไกลนอกกรอบ บอลหลุดเสาออกไปนิดนึงเพียงแค่นั้น นาทีต่อมาผู้มาเยือนมีลุ้นต่อบอลเข้าจุดโทษแม้กระนั้น ลากาเซ็ตต์ ยังยิงไปเข้ามือของ โชเซ ซา
แล้วก็จบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์ 0-1
เริ่มครึ่งเวลาข้างหลังเป็นเจ้าบ้านที่เน้นเกมบุกเยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ได้เป็นฝ่ายบุกบีบคั้นอย่างมากในช่วง 10 นาทีแรกแม้กระนั้นก็ยังทำอะไรมากมายมิได้
ต่อจากนั้นเกมเริ่มเปิดแลกกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ แม้กระนั้นยังหาโอกาสเข้าพื้นคราวอันตรายกันแทบจะมิได้
นาทีที่ 70 อาร์เซนอล เหลือผู้เล่น 10 คนจากจังหวะที่ กาเบรียล มาร์ติ เนลลี โดนใบเหลืองสองใบต่อเนื่องกันกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป
2 นาทีหลังจากนั้น ลากาเซ็ตต์ หลุดเดี่ยวแม้กระนั้นยิงเล่นทางมากเกินไปทำให้บอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 73 วูล์ฟส์ มีลุ้นตีเสมอจากจังหวะยิงไกลของ ซาอิสส์ แม้กระนั้นยังไปติดเซฟของ แรมส์เดล
ช่วง 10 นาทีในที่สุดเจ้าบ้านโหมบุกเข้าใส่อย่างมาก แล้วก็หาโอกาสได้จบอยู่หลายครั้งแม้กระนั้นยังไม่เฉียบขาดมากพอ
ทำให้จบ 90 นาที อาร์เซนอล บุกมาเชือดเอาชนะ วูล์ฟส์ ได้ถึงถิ่น 0-1
รายนามผู้เล่นที่ลงสนาม
วูล์ฟแฮมป์ตัน : โฆเซ่ ซา,มักซ์ คิลแมน,คอเนอร์ คัวดี้ (ฟาบิโอ ซิลวา น.81),โรแม็ง ซาอิสส์,เนลสัน เซเมโด้,ลีนเดอร์ เดนด็องเคอร์,รูเบน เนเวส,เฟร์นานโด มาร์ซาล (รายาน ไอต์ นูรี่ น.63),ตริงเกา (ชิกินโญ่ น.62),ราอูล ฮิมิเนซ,ดาเนี่ยล โปเดนซ์
อาร์เซน่อล : แอรอน แรมส์เดล,เซดริก ซัวเรส,เบน ไวท์,กาเบรียล มากัลเญส,คีแรน เทียร์นี่ย์,โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาก้า,บูคาโย่ ซาก้า (ร็อบ โฮลดิ้ง น.71),มาร์ติน โอเดนการ์ด (เอมิล สมิธ-โรว์ น.68),กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (ใบแดง น.69),อเลซ็องด์ ลากาแซตต์ (เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ น.81)
More Stories
ปิดตำนาน 13 แชมป์ “เสาหลักแมนฯ ซิตี้” เปิดตัวทีมใหม่แล้ว หลังล่ำลาพรีเมียร์ลีก
ธงไทยโบกสะบัด! “พญาหงส์” สร้างประวัติศาสตร์แชมป์ K-1 มวยหญิงคนแรก
Fresh Air ผู้จัดแดงเดือดในไทย โร่แจงไม่มีบัตรซ้อม “แจ็คสัน หวัง” ยันไม่มีกิจกรรมมื้อพิเศษ เงื่อนไลฟ์ “พิมรี่พาย”